Thursday, September 13, 2012

เมื่อวันที่เธอไม่อยู่

สมมติว่าคุณลุงดันดี กำลังเดินซื้อของอยู่ในห้าง แล้วนึกขึ้นมาได้ว่ายาลดความดันของตัวเองหมด แล้วพรุ่งนี้คุณลุงดันดีต้องเดินทางไปต่างประเทศซะด้วย ขณะนั้นก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว คุณลุงตัดสินใจเข้าร้านยาชื่อดัง

"สวัสดีครับ ผมต้องการยา...."
เสียงตอบรับจากพนักงานสาวดังว่า "ตอนนี้จำหน่ายยาให้ไม่ได้ค่ะ เภสัชกรไม่อยู่"
"แต่ยาตัวนี้ผมกินประจำนะครับ"
"เป็นนโยบายของทางร้าน จำหน่ายให้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ" พนักงานกล่าวสีหน้าเรียบเฉย

คุณลุงดันดีจำต้องเดินออกไป แล้วจะทำยังไงดีเนี่ย ร้านยาข้างนอกก็คงปิดแล้ว พรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางแต่เช้า ของก็ยังซื้อไม่ครบ ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นร้านยาเชนดังอีกร้าน

เมื่อเดินเข้าไปถึงเคาน์เตอร์ขายยา มีป้ายติดตัวเป้งเลยว่า --ขณะนี้เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติการ--

เอาอีกแล้วเหรอนี่ แล้วพรุ่งนี้จะมียากินหรือเปล่า หมอสั่งให้กินทุกวันด้วยซิ

"สวัสดีครับ ผมต้องการยา... ตัวนั้นอะครับ" คุณลุงบอกพร้อมช่วยพนักงานหาว่ายาตัวนั้นอยู่ที่ไหน
"นี่ค่ะ จ่ายเงินที่แคชเชียร์ด้านหน้าเลยค่ะ"

คุณคิดว่าร้านยาร้านไหนทำถูก???

คงตอบกันว่าทำไม่ถูกทั้ง 2 ร้าน จริงค่ะ เวลาปฏิบัติการเภสัชกรควรอยู่ประจำตลอดเวลา แต่เภสัชกรก็เป็นคน ต้องกิน ต้องเข้าห้องน้ำ ก็ต้องมีช่วงเวลาไม่อยู่ที่เคาน์เตอร์บ้าง

     ร้านที่หนึ่ง มีนโยบายที่ค่อนข้างเข้มแข็งที่จะยกระดับร้านยาโดนการจ่ายยาทุกครั้งต้องจ่ายโดยเภสัชกร แต่โดยส่วนตัวคิดว่าร้านยาแห่งที่สองทำได้ดีกว่า เนื่องจากทางร้านมีป้ายประกาศชัดเจนว่าเภสัชกรไม่ได้อยู่ปฏิบัติการ ถ้ามีการจำหน่ายยาออกไปเภสัชกรคนนั้นไม่ได้รับผิดชอบนะคะ

     คุณลุงควรมีสิทธิในการเลือกที่จะดูแลตัวเอง เพราะคุณลุงรับทราบแล้วว่าเภสัชกรไม่อยู่ แต่คุณลุงเลือกที่รับความเสี่ยงที่จะได้รับยาจากบุคคลที่ไม่ใช่เภสัชกร เพราะคิดคำนวนแล้วมั่นใจว่าเป็นยาที่ใช้ประจำ และการไม่มียาจะเกิดผลเสียกับตัวเองมากกว่า คุณลุงจึงตัดสินใจซื้อได้

ก็คล้ายกับการประกันชีวิตระหว่างเดินทาง ลูกค้าก็เลือกได้เหมือนกันว่าจะซื้อประกันหรือไม่ แต่เราเตือนคุณแล้วนะ

หรือคุณคิดว่ายังไง?




No comments:

Post a Comment